ปราสาทคุมาโมโตะเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่นและยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัด มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 400 ปี นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 16 โดยการนำของคะโต คิโยมาสะ เจ้าเมืองหรือไดเมียวคนแรกของคุมาโมโตะ ปราสาทอันแข็งแกร่งนี้เป็นที่รู้จักดีในฐานะของสถานที่แห่งการต่อสู้ปราบปรามกบฏซามูไรที่ต่อต้านอำนาจรัฐบาลในปี 1877
ในบริเวณรอบปราสาทมีต้นซากุระจำนวนมาก แข่งกันเบ่งบานเป็นสีชมพูสดใสในฤดูใบไม้ผลิ สิ่งปลูกสร้างบางส่วนยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างดั้งเดิม แต่อีกบางส่วนเช่น พระราชวังฮอนมารุ โกะเท็นอันงดงาม และหอคอยเทนชุคาคุ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อยู่บนยอดปราสาท ได้รับการบูรณะให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น
แผ่นดินไหวที่คุมาโมโตะในปี 2016 สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับกำแพงป้อมปราการ และโครงสร้างอาคาร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการบูรณะฟื้นฟู และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้บางส่วน ปราสาทคุมาโมโตะ จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและการกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
เริ่มต้นการท่องเที่ยวคุมาโมโตะจากที่นี่ ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง
จากความงดงามของสวนซุยเซนจิ โจจูเอ็น และความเงียบสงบของชายฝั่งทะเลสาบเอซึ รวมถึงน้ำแร่จากอุเอกิออนเซ็นที่ช่วยบำบัดฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า คุมาโมโตะจึงถือได้ว่าเป็นเมืองที่สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง
เพียงนั่งรถรางจากปราสาทคุมาโมโตะซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ก็สามารถไปเดินเล่นที่สวนซุยเซนจิ โจจูเอ็น ซึ่งเป็นสวนเก่าแก่ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 17 ทอดตัวอยู่รอบสระน้ำผุดที่มองลงไปเห็นน้ำใสชัดเจน จากสวนสามารถเดินไปยังทะเลสาบเอซึ สถานที่ยอดนิยมในการนั่งเรือ, ตกปลา, เดินเล่น, วิ่งจ๊อกกิ้ง และพักผ่อนหย่อนใจ
ที่นอกเมือง มีน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาตามธรรมชาติที่บ่อน้ำแร่อุเอกิออนเซ็น คุณสมบัติน้ำเป็นด่างอ่อนๆ ทำให้ผิวสวยนุ่มลื่น
ผ่อนคลาย สดชื่น และกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้งท่ามกลางธรรมชาติ
สถานที่ท่องเที่ยวหลักในเมืองเชื่อมต่อด้วยรถรางซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1924 รถรางที่วิ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานีคุมาโมโตะ, ปราสาทคุมาโมโตะ, สวนซุยเซนจิ โจจูเอ็น, แหล่งช้อปปิ้งและสถานบันเทิง มีทั้งขบวนรถแบบคลาสสิคและโมเดิร์น ตั๋ววันเดย์พาสสามารถใช้นั่งรถรางได้ทั้งวันและทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้น
เที่ยวชมเมือง โดยเริ่มจากรถรางอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง
คุมาโมโตะเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยน้ำแร่ธรรมชาติและดินที่สมบูรณ์ เป็นที่มาของวัฒนธรรมอาหารที่ส่งตรงจากแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นข้าว, ผักและผลไม้สดๆ อันอุดมสมบูรณ์ ร้านอาหารในเมืองคุมาโมโตะใช้วัตถุดิบที่สดใหม่จากท้องถิ่นในเมนูอาหารต่างๆ ทั้งอาหารญี่ปุ่น, อาหารพื้นเมือง รวมไปถึงอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยน
ห้ามพลาดกับอาหารท้องถิ่นของคุมาโมโตะ ไม่ว่าจะเป็นราเม็งคุมาโมโตะ รากบัวยัดไส้มัสตาร์ด (คาราชิ เรงกง) และซาชิมิเนื้อม้า (บาซาชิ) ที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มเฉพาะ
จังหวัดคุมาโมโตะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตแตงโม, เมล่อน, มะเขือม่วงและส้ม มาทดลองสัมผัสประสบการณ์ด้านเกษตรกรรม เช่นการเก็บผลไม้ที่สวนด้วยตัวคุณเอง
เตรียมท้องให้ว่างเพื่อเจริญอาหารให้เต็มที่
ที่คุมาโมโตะ คุณแค่เปิดก๊อกน้ำก็ดื่มได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำแร่ เพราะเมืองตั้งอยู่บนแหล่งน้ำใต้ดินตามธรรมชาติ ซึ่งมีน้ำบริสุทธิ์เพียงพอสำหรับพลเมืองทุกคน แหล่งน้ำธรรมชาตินี้ได้มาจากน้ำฝนที่ตกลงมายังภูเขาไฟอะโสะ และทุ่งนาเลียบแม่น้ำชิราคาวะ ผ่านการกรองจากชั้นใต้ดินมาเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์
ไม่เพียงแต่รสชาติที่อร่อย แต่น้ำธรรมชาติจากใต้ดินยังช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง รวมทั้งเพิ่มความสดและรสชาติที่ดีให้กับผลิตผลทางการเกษตรอีกด้วย เมืองคุมาโมโต้จึงมีความพยายามที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่านี้ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
ดื่มน้ำให้สดชื่น แล้วไปสัมผัสเป็นส่วนหนึ่งกับความยั่งยืนของสถานที่ที่ไปเยือน
เมืองคุมาโมโตะเป็นศูนย์กลางการเดินทางและเป็นประตูสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ ในคิวชู รถไฟชินคันเซ็น เชื่อมต่อสถานีคุมาโมโตะกับสถานีฮาคาตะ (เมืองฟุกุโอกะ) ประมาณ 30 นาที และเชื่อมต่อกับสถานีคาโกชิมะ (เมืองคาโกชิมะ) เพียงไม่ถึงชั่วโมง
คุณสามารถไปถึงสถานีซากะ (จังหวัดซากะ) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยรถไฟชินคันเซ็นแล้วต่อรถไฟสายธรรมดา และไปถึงเมืองนางาซากิโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งด้วยรถไฟ หรือนั่งเรือเฟอรี่ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งให้บริการระหว่างเมืองคุมาโมโตะกับเมืองชิมาบาระที่อยู่ทางตะวันออกของจังหวัดนางาซากิ
การเดินทางจากตัวเมืองคุมาโมโตะ มีทั้งรถบัสและรถไฟที่ให้บริการ เชื่อมระหว่างตัวเมืองกับบริเวณอำเภออะโสะของคุมาโมโตะเอง และปลายทางอื่นๆ เช่น เบปปุและยูฟุอินในจังหวัดโออิตะ รวมถึงทาคาจิโฮะในจังหวัดมิยาซากิ
ปักหลักที่คุมาโมโตะเพื่อให้คุณใช้เวลาในคิวชูได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
