สวนธรรมชาติทัตสึดะ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างบนที่เดิมของวัดไทโชจิ
ตระกูลโฮโซคาวะได้ปกครองโคคุระซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของคิวชู ต่อในปี 1632 ทาดะโทชิ โฮโซคาวะ (1586–1641) ได้รับมอบหมายเพิ่มพื้นที่ปกครอง เขาจึงต้องย้ายไปที่คุมาโมโตะ วัดประจำตระกูลโฮโซคาวะในโคคุระ ถูกเรียกว่า “วัดไทโชอิน” ทาดะโทชิจึงสร้างวัด “ไทโชจิ” ขึ้นในคุมาโมโตะ ต่อมามิตซึนาโอะ ลูกชายของทาดะโทชิได้เปลี่ยนชื่อวัดจาก “วัดไทโชอิน” เป็น “วัดไทโชจิ”
ในสวนมีสุสานหลัก 4 หลัง (ขวาไปซ้าย):
•ฟูจิทากะ โฮโซคาวะ (1534–1610) ปู่ของทาดะโทชิ, พ่อของ ทาดะโอกิ
•จาโค นุมาตะ (1544–1618) ภรรยาของฟูจิทากะ
•ทาดะโอกิ โฮโซคาวะ (1563–1646) ผู้ครองแคว้นโคคุระ, พ่อของทาดะโทชิ
•กราเชีย โฮโซคาวะ (1563–1600) ภรรยาของทาดะโอกิ
ในบรรดาสุสานทั้ง 4 สุสานที่มีผู้สักการะมากที่สุดคือสุสานของ กราเชีย โฮโซคาวะ
กราเชียเลือกที่จะตายเมื่ออายุ 37 ปีแทนที่จะถูกจับเป็นตัวประกันโดยแม่ทัพ มิตสึนาริ อิชิดะ ในระหว่างที่มิตสึนาริ เตรียมตัวสําหรับการต่อสู้ที่ เซกิงาฮาระ ในปี 1600 เขาพยายามใช้กราเชีย เป็นเครื่องมือเพื่อบังคับให้ทาดะโอกิ สามีของเธอ แปรพรรคจากกองทัพตะวันออกไปยังกองทัพตะวันตก มิตสึนาริ อิชิดะ แพ้สงครามเซกิงาฮาระ และในปี 1603 โชกุนโตกุกาวะได้รับการสถาปนาและปกครองญี่ปุ่นจนถึงปี 1867 ชีวิตที่โชคร้ายของกราเชียทําให้เธอกลายเป็นนางเอกยอดนิยมของนิยายอิงประวัติศาสตร์ ชื่อจริงของเธอคือ ”ทามะ” ส่วนกราเชีย เป็นชื่อคริสเตียนที่ได้มาเมื่อเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์
ตราประจำตระกูล เป็นการออกแบบขึ้นมา
สุสานประกอบด้วยสองส่วน :
หอภาวนา (ไฮเด็ง) ที่ด้านข้างเปิดโล่ง และหอหลัก (ฮนเด็ง) ประตูของไฮเด็งจะเปิดอยู่และมองเห็นหอคอยห้าห่วง (โกะรินโต) ขนาดใหญ่อยู่ภายใน "คุโยมง" (แหวนเก้าวง) ซึ่งเป็นตราประจำตระกูลของโฮโซคาวะ ถูกสลักไว้แม้กระทั่งบนประตูและตัวยึดเหล็ก มีกระเบื้องประดับรูปยักษ์ (โอนิงาวาระ) ที่สวยงามในสี่มุมของหลังคา
สุสานอื่นๆ ในตระกูลโฮโซคาวะ มีของ นาริชิเงะ โฮโซคาวะ (1755–1835) ทายาทรุ่นที่ 10 นาริชิเงะมารับช่วงต่อในเวลาที่ตระกูลใหญ่ขาดผู้สืบทอด เขาจึงเป็นบุตรบุญธรรมที่ถูกรับมาจากตระกูลรอง สุสานของตระกูลโฮโซคาวะหลังจากรุ่นที่ 3 ลงมา อยู่ในสวนธรรมชาติคิตะโอกะ แต่ก็มีบางทฤษฎีกล่าวว่า นาริชิเงะไม่ได้เป็นทายาทสายตรง ดังนั้นสุสานจึงไม่ได้อยู่ที่สวนธรรมชาติคิตะโอกะ แต่อยู่ที่สวนธรรมชาติทัตสึดะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสถูปหินที่สร้างอุทิศให้กับนักดาบในตํานาน มูซาชิ มิยาโมโตะ (1584–1645) มูซาชิได้ใช้ชีวิตบั้นปลายที่คุมาโมโตะภายใต้ความคุ้มครองของตระกูลโฮโซคาวะ
พิธีชงชาที่ทะเลสาบ
จาก “โคโชเคน” (ห้องชงชาที่มองเห็นป่าสน) ที่สร้างขึ้นในปี 1922 มองออกไปจะเห็นทะเลสาบ อาคารหลังคามุงจากและมีแผ่นไม้ชายคาหลังนี้ออกแบบโดย ทาดะโอกิ โฮโซคาวะ (1563-1646) ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะนักชงชา อ่างล้างมือหินที่อยู่ในสวน ว่ากันว่า “เซนโนะริคิว” ก็เคยใช้มาแล้ว ทาดะโอกิหลงใหลในความงามของอ่างหินนี้มาก เขาจึงนําติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่เดินทางไปเอโดะปีเว้นปีตามระบบ “ซังคิงโคไต” (การเดินทางไปพำนักกับโชกุนที่เอโดะซึ่งเป็นเมืองหลวง)
หากเป็นผู้ที่รักธรรมชาติ คงจะเพลิดเพลินกับสวนมอสที่มีต้นหิมาลัยสูง 30 เมตรปกคลุมด้วยพืชไม้เลื้อยแห่งนี้ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ถึงต้นเดือนก.ค.สวนดอก "ทัตสึดะยามะ ยาเอะ คุจินะชิ" (พุดซ้อนญี่ปุ่น ) จะแผ่ไปเต็มสวน พืชชนิดนี้เป็นพืชหายากที่เติบโตตามธรรมชาติเฉพาะที่เขาทัตสึดะนี้เท่านั้น และเคยถูกเข้าใจว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว