Recommended courses
เมืองคุมาโมโตะในอดีตเป็นชุมชนรอบปราสาท จึงมีประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมและร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับซามูไรหลงเหลืออยู่มากมาย มาลองสัมผัสประสบการณ์ด้านธรรมชาติและอาหารพื้นเมืองของคุมาโมโตะ ลิ้มลองรสชาติอาหารตามฤดูกาลไปพร้อมๆ กับตามรอยซามูไรในยุคนั้นกันเถอะ
START
โจไซเอ็นตั้งอยู่ที่ซากุระโนะบาบะ ข้างล่างปราสาทคุมาโมโตะที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เผยแพร่ประเพณี, ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมด้านอาหารของท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก มาเริ่มต้นการเดินทางค้นหาเสน่ห์ของคุมาโมโตะ จากที่นี่「ซากุระโนะบาบะ โจไซเอ็น」
เป็นสถานที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในจังหวัดโดยเน้นในเมืองเป็นหลัก มีเคาน์เตอร์แนะนำการท่องเที่ยวที่ไว้บริการด้านข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดท่องเที่ยวในคุมาโมโตะ, อีเว้นท์ที่แนะนำในแต่ละฤดูกาล ข้อมูลที่พัก, การเดินทาง เป็นต้น ที่เคาน์เตอร์แนะนำการท่องเที่ยวมีสต๊าฟที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้นั่งประจำอยู่ มีโบรชัวร์และแผนที่ 4 ภาษา (ญี่ปุ่น, อังกฤษ, เกาหลี, จีน) ไว้คอยบริการด้วย
ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว
มีฟรี
Wi-Fi
เป็นขนมพื้นเมืองดั้งเดิมไส้มันเทศกับถั่วแดงที่ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเหนียวหรือแป้งสาลีแล้วนำไปนึ่ง ให้รสสัมผัสที่ร่วนซุยและความหวานจากมันเทศจะกระจายไปทั่วปาก เป็นขนมแนะนำเวลาท้องว่างช่วยให้อุ่นท้องกว่าที่คิด ร้าน「อิคินาริยะ วาตานาเบะ」มีอิคินาริดังโงะหลายชนิดให้เลือก สินค้าที่ได้รับความนิยมมี「ไส้ชีสนมเต้าหู้」ซึ่งมีขายเฉพาะที่ปราสาทคุมาโมโตะและสินค้าเฉพาะฤดูกาล โดยที่ร้านมีสต๊าฟที่ได้ภาษาอังกฤษ คุณจึงสบายใจได้
รสดั้งเดิมก็อร่อย แต่ส่วนตัวแนะนำ「ไส้ชีสนมเต้าหู้」
แค่ชิ้นเดียวก็อิ่มอร่อย
อิคินาริยะ วาตานาเบะ
บ้านเรือนที่เรียงรายให้บรรยากาศแบบชุมชนรอบปราสาทในสมัยเอโดะ มีร้านต่างๆ 23 ร้านจากในจังหวัดคุมาโมโตะที่ได้รับเลือกให้มาออกร้านที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ให้คุณเพลิดเพลินได้ด้วยตาและลิ้นกับวัฒนธรรมการกินของจังหวัดคุมาโมโตะ เช่น อาหารพื้นเมืองและเมนูที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น หรือร้านขายสินค้าขึ้นชื่อของคุมาโมโตะ นอกจากนี้ยังสามารถชมการแสดงของ "เหล่าแม่ทัพซามูไรแห่งปราสาทคุมาโมโตะ" ที่แต่งตัวเป็นแม่ทัพในยุคสงคราม ให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมซามูไรในสมัยโบราณ
โจไซเอ็น ถึงแม้บรรยากาศโดยรวมจะดูเก่า แต่ก็พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว และยังได้ดูซามูไรด้วย สนุกดีเหมือนกัน!
ได้บรรยากาศในอดีตดี
"ฮิโงะมารุ" คาแรคเตอร์ของเมืองคุมาโมโตะ จะออกมาทักทายทุกวันอาทิตย์, อังคาร, พุธ ส่วนวันศุกร์และเสาร์จะออกมาเว้นอาทิตย์
※เวทีการแสดง "เหล่าแม่ทัพซามูไรแห่งปราสาทคุมาโมโตะ" (การร่ายรำ หรือ การพบปะสนทนา)
(กรณีมีเหตุขัดข้อง เช่นที่สภาพอากาศไม่ดี เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า)
มีรูปปั้นยืนของท่านคะโต คิโยมาสะเจ้าเมืองคนแรกของแคว้นฮิโกะคุมาโมโตะตั้งอยู่ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทคุมาโมโตะฝั่งตัวเมือง และวิวกลางคืนที่มองจากจุดนี้ก็แสนวิเศษ คะโต คิโยมาสะ เป็นผู้ก่อตั้งปราสาทคุมาโมโตะที่ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นผู้จัดระเบียบชุมชนรอบปราสาทและถนนหนทาง พัฒนาพื้นที่นาใหม่ วางแผนจัดการเกี่ยวกับน้ำเพื่อการชลประทาน สร้างรากฐานการจัดระเบียบเมืองคุมาโมโตะขึ้นมา และยังคงเฝ้ามองบ้านเมืองคุมาโมโตะลงมาจากเนินเขาของสวนแห่งนี้
เป็นโรงน้ำชาที่สร้างจำลองสถานที่ที่นัตสึเมะ โซเซกิ นักประพันธ์สมัยเมจิตัวแทนของญี่ปุ่นแวะมาจริงเมื่อสมัยออกเดินทางและยังมีปรากฏอยู่ในงานเขียนด้วย บริเวณรอบๆ ได้รับการปรับปรุงให้เป็นสวนสีเขียวของป่าไผ่ ในอดีตที่การเดินเท้าเป็นวิถีหลักสำหรับการเดินทางนั้น เส้นทางข้ามเขาจะมีโรงน้ำชาให้ผู้คนที่เดินทางผ่านได้หยุดพัก แน่นอน เหล่าซามูไรเองก็อาศัยโรงน้ำชาแบบนี้พักผ่อนให้หายเหนื่อยล้าเช่นกัน ลองมาสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ให้เหมือนกับเป็นซามูไรดูบ้างดีกว่า
ดาโกะ มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และอร่อยมาก!
ฉะยะมันจู รสชาติที่เพิ่งเคยกินครั้งแรก!
ร้าน "ดาโกะจิรุยะ" ตั้งอยู่พื้นที่หนึ่งภายในสวน เป็นร้านซุปดาโกะซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของคุมาโมโตะ ร้านชื่อดังที่ซ่อนตัวอยู่ร้านนี้มีลูกค้าประจำเยอะมาก ดาโกะที่รูปร่างเหมือนอูด้งเส้นใหญ่ๆ ในซุปที่อัดแน่นไปด้วยผัก เห็ดหอม และเนื้อไก่ เสิร์ฟมาในชามเหล็กร้อนๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารเมนูอื่นๆ เช่น ข้าวหุงหน่อไม้ เป็นต้น
"ฉะยะมันจู" สูตรที่สืบทอดกันมา เป็นของหวานที่มีชื่อของร้าน "ดาโกะจิรุยะ" ทำจากมันเทศที่มีรสสัมผัสแปลกใหม่
บ้านญี่ปุ่นแบบหลังคาหญ้าฟางโอบล้อมด้วยสีเขียวของต้นไม้ เปิดเป็นหอสมุดที่เกี่ยวกับนัตสึเมะ โซเซกิ
โอบล้อมด้วยธรรมชาติ บรรยากาศดีจริงๆ!
วัดอุงกันเซ็นจิ เป็นที่รู้จักในฐานะของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันลึกลับ ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาคินโปซัง ทางทิศตะวันตกของเมืองคุมาโมโตะ ปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ ว่ากันว่าสร้างเมื่อปี 1351 ด้านหลังของภูเขามีพระพุทธรูปหิน 500 องค์และถ้ำเรกันโด เส้นทางเดินที่ล้อมรอบด้วยบรรยากาศอันเคร่งขรึมของธรรมชาติแต่ละฤดูเหมาะอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรมเดินป่า และบริเวณใกล้ๆ ยังมีทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดแบบโบราณ ภูเขาอันงดงามตามธรรมชาติที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน
แวะไปสักการะอุโบสถในวัดอุงกันเซ็นจิ!
เส้นทางแคบๆ ที่เกิดจากการเจาะภูเขาหิน จากวัดอุงกันเซ็นจิถึงถ้ำเรกันโด มีพระพุทธรูปหินตั้งเรียงรายอยู่จำนวนมาก เรียกว่าพระพุทธรูปหิน 500 องค์ ว่ากันว่าเมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้วพ่อค้าของคุมาโมโตะเป็นผู้นำมาถวายโดยใช้เวลาถึง 24 ปี พระพุทธรูปหินจำนวนมากที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันออกไป วางเรียงรายอยู่รอบภูเขาหินจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ดูลึกลับ หน้าร้อนก็รู้สึกเย็นสบายด้วยร่มเงาจากต้นไม้และแสงแดดที่ลอดเงาไม้ลงมา ฤดูใบไม้ร่วงก็แต่งแต้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสีดูงดงาม
ถ้ำที่แฝงตัวอยู่ลึกสุดของวัดอุงกันเซ็นจิ เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่รู้จักกันในชื่อ "อิวาโตะคังนน" วาระสุดท้ายของ มูซาชิ มิยาโมโตะ นักดาบและนักยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นซึ่งใช้ชีวิตช่วง 5 ปีสุดท้ายที่คุมาโมโตะ ก่อนสิ้นใจได้เก็บตัวอยู่ในถ้ำนี้และเขียนตำรายุทธวิธีชื่อ "โกะริงโนะโชะ" หรือคัมภีร์ห้าห่วงขึ้นมา ซึ่งเขาได้รวบรวมแก่นแท้ 5 ประการของนักดาบและเรื่องราวชีวิตของตัวเอง เป็นผลงานที่ถือเป็นตัวแทนของมูซาชิ มิยาโมโตะ
รอบๆ อุโบสถโอบล้อมด้วยสีเขียวของแมกไม้ ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็น
มีเอกสารเกี่ยวกับมูซาชิ มิยาโมโตะ นักดาบในยุคต้นสมัยเอโดะ จัดแสดงอยู่ด้านใน
เมื่อเพ่งมองใบหน้าและท่าทางของพระพุทธรูปหินแต่ละองค์ ก็เพลินจนแทบจะลืมเวลา
สวนเกษตรท่องเที่ยวที่เปิดให้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยของผลไม้สุกที่เก็บใหม่ๆ จากต้นในแต่ละฤดู ที่นี่คุณสามารถสนุกกับการเก็บผลไม้ที่สดใหม่ตามฤดูกาล และผลผลิตที่อร่อยทุกอย่างเพราะใช้ประโยชน์จากความลาดเอียงของภูเขา ฤดูร้อนมีลูกท้อ สาลี่ องุ่น, ฤดูใบไม้ร่วงมีลูกพลับ ส้ม และพอเข้าสู่เดือนธันวาคมจะเป็นการเก็บสตรอเบอรี่สุดฮิต กิจกรรมอื่นๆ มีการเก็บเกาลัด หน่อไม้ และยังสามารถลิ้มรส "นางาชิโซเม็ง" หรือเส้นโซเม็งในรางน้ำไหล สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่เช่นการเก็บไข่อีกด้วย!
※ลูกท้อจะเป็นการวางขายที่ร้านของสวนเท่านั้น
นั่งรถสำหรับการเดินทางภายในสวน จึงได้ชมทัศนียภาพไปด้วย
กิจกรรมเก็บสตรอเบอรี่ยอดฮิต เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน กรณี 10 คนขึ้นไปต้องจองล่วงหน้า
สตรอเบอรี่พันธุ์ "เบนิ ฮปเปะ" และ "ฮิโนะ ชิซึคุ" เป็นคอร์สกินไม่อั้น!
ไม่เพียงแต่คอร์สกินไม่อั้นเท่านั้น ยังมีคอร์สเก็บกลับบ้านด้วย
(ค่าเข้าสวน ม.ต้นขึ้นไป 100 เยน, เด็กประถมลงมา เข้าฟรี)
ที่ร้านขายของจะวางขายผลไม้ที่สุกเต็มที่และผลิตผลอื่นๆ ของสวน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาดะ เป็นที่รู้จักในแง่ของสถานที่จัดแสดงงานเขียนพู่กัน, ของใช้ส่วนตัวและเสื้อเกราะของ มูซาชิ มิยาโมโตะ ที่นี่มีทั้งภาพมูซาชิถือดาบคู่, ภาพวาดหมึก, จดหมาย รวมทั้งดาบ เก็บรักษาเอาไว้ มองจากด้านในของพิพิธภัณฑ์ออกไปจะเห็นสวนสีเขียวสดใส จนทำให้ลืมเวลาไปเลย หลังจากได้สัมผัสมุมมองและวัฒนธรรมของซามูไรแล้ว มานั่งที่คาเฟ่ปล่อยใจให้ล่องลอยไปในอดีตท่ามกลางความอบอุ่นของหมู่แมกไม้รอบๆ
มูซาชิ มิยาโมโตะ เกิดปี 1584 เป็นที่รู้จักในฐานะนักดาบที่แข็งแกร่งของญี่ปุ่น เรื่องราวชีวิตของเขาถูกนำไปเขียนเป็นนิยายและการ์ตูนมากมาย เมื่อตอนอายุได้ 13 ปี เขาชนะการดวลดาบครั้งแรก ต่อมาได้ต่อสู้ใน "การประลองที่เกาะกันริว" กับ "โคจิโร่ ซาซากิ" ผู้โด่งดัง และได้ต่อสู้กับนักดาบจำนวนมาก เอาชนะมาตลอดมากกว่า 60 ครั้งจนอายุ 29 ปี
มูซาชิ มิยาโมโตะ ศึกษาวิชาดาบจนลึกซึ้ง เป็นผู้ริเริ่มการต่อสู้ด้วยสองดาบที่เรียกว่า "นิเทน อิจิริว" เมื่ออายุ 57 ปี เขาได้เดินทางมาที่คุมาโมโตะ และได้มารับใช้ "ทาดะโทชิ โฮโซคาวะ" 5 ปีก่อนเสียชีวิตในปี 1645 วาระสุดท้ายที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่คุมาโมโตะ เขาได้เขียน "ตำรา 35 กลยุทธ์" และ "คัมภีร์ห้าห่วง" ขึ้น และใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับการชงชา, การทำสมาธิแบบเซน และงานเขียน
"คาเฟ่คิโนะเคมุริ" ที่สร้างรวมกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ สามารถลิ้มรสขนมมัฟฟินและเค้กโฮมเมดได้ ลองมานั่งดื่มมัทฉะที่ระเบียงด้านนอกที่โอบล้อมไปด้วยสีเขียว ภายในคาเฟ่ มีความอบอุ่นจากต้นไม้และแสงอันนุ่มนวลของธรรมชาติส่องเข้ามา ให้ความรู้สึกสงบ หน้าหนาว นั่งจิบชาพร้อมกับอบอุ่นร่างกายด้วยเตาผิง
ปล่อยอารมณ์ไปกับช่วงเวลาในอดีตด้วยใจที่สงบเยือกเย็น หลังจากสัมผัสวิถีซามูไรมาตลอด 1 วัน